ประเทศไทยยืนยันเป็นเจ้าภาพจัดมิสเวิลด์ครั้งที่ 69 รอบสุดท้ายปลายปีนี้ 

มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น นำโดย นางจูเลีย มอร์ลีย์ ประธานและซีอีโอ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า การประกวดมิสเวิลด์ครั้งที่ 69 รอบสุดท้าย จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการประกวดมิสเวิลด์ที่จะยกเทศกาลและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการประกวดรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดรวมหนึ่งเดือนมาจัดขึ้นในประเทศไทย

 มิสเวิลด์เป็นการประกวดนางงามระดับนานาชาติที่จัดมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลกนับตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) และมีความแตกต่างจากเวทีประกวดนางงามอื่นๆ เพราะเป็นเวทีที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนทั่วโลกรวมถึงเปิดโอกาสให้หญิงสาวนับพันคนได้มาร่วมกันสร้างความตระหนักด้านมนุษยธรรมและระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ยากจน ผู้ป่วย และผู้ด้อยโอกาสทั่วโลก ผ่านโครงการ Beauty With A Purpose (งามอย่างมีคุณค่า) ในทุกๆ ปี องค์กรมิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่นจะดำเนินโครงการฯ ผ่านเวทีมิสเวิลด์ และสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวนหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐเพื่อนำไปมอบให้แก่การกุศล

 การประกวดมิสเวิลด์ครั้งล่าสุดในปีที่ผ่านมาจัดขึ้นที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 9 ที่มีการจัดประกวดมิสเวิลด์จัดขึ้นในประเทศดังกล่าว  ที่ผ่านมาการประกวดมิสเวิลด์มีบทบาทอย่างมากในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจีน โดยสาวงามจากประเทศจีนที่ครองมงกุฏมิสเวิลด์แล้ว 2 คน ได้แก่จางจื่อหลิน ในปี ค.ศ. 2007 และ หยูเหวินเซียะ ในปี ค.ศ. 2012

สำหรับโชว์การประกวดมิสเวิลด์รอบสุดท้ายที่หลายคนตั้งตารอนั้น จะถ่ายทอดสดไปยังกว่า 100 ประเทศ ทั่วโลก  ผู้ชมจะได้รับชมภาพประวัติศาสตร์ที่ วาเนซา ปอนเซ เด เลออน มิสเวิลด์คนปัจจุบันสวมมงกุฏให้กับสาวงามที่จะได้รับตำแหน่งเป็นมิสเวิลด์คนที่ 69 ในประเทศไทย

นายธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด พันธมิตรผู้จัดงานมิสเวิลด์ 2019 รอบชิงชนะเลิศ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย กล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดเวทีนางงามที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง มิสเวิลด์ ในประเทศไทย ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานผู้มีประสบการณ์จากมิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น ผมเชื่อว่าการประกวดครั้งนี้จะนำความสุขและสีสันมาให้คนไทยได้อย่างแน่นอน แฟนนางงามชาวไทยจะได้มีโอกาสรับชมผู้ชนะการประกวดมิสเวิลด์จากทั่วโลกมาประชันความงามและความสามารถกันในบ้านเรา และเรายังหวังว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดมิสเวิลด์ในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ในด้านศักยภาพของประเทศไทย รวมทั้งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและนำวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทยไปสู่สายตาของผู้ชมทั่วโลก ในฐานะเจ้าภาพผู้จัดงานอย่างเป็นทางการ เราจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อให้เวทีการประกวดนางงามอันทรงเกียรตินี้สำเร็จออกมาได้อย่างน่าประทับใจ