พลังแห่งการให้ไม่มีที่สิ้นสุด งาน “ส่งต่อ…ความห่วงใย” หารายได้เข้าสภากาชาดไทย ปีที่ 7 บทพิสูจน์พลังแห่งน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน 

มะเร็งเป็นโรคร้าย หากแต่ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่วิทยาการแพทย์ไม่หยุดนิ่ง แสวงหาหนทาง “ป้องกัน” และ “วิทยาการการรักษา” ที่ตรงจุดและได้ผล คงเป็นเรื่องดีมากๆ ถ้าทุกคนในสังคมร่วมด้วยช่วยกัน กิจกรรม    ซีเอสอาร์ที่ทำมาตลอด 7 ปีของ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน)  จึงมุ่งเน้นเป็นสื่อกลางให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม โดยเปิดกิจกรรม ยูเมะพลัส “ส่งต่อ…ความห่วงใย” ปี 7 (Umay+ “PAY IT FORWARD” 7)  ช้อปกระเป๋า 100 บาท รายได้สมทบทุนสนับสนุนงานวิจัยและรักษาโรคมะเร็งแก่ผู้ด้อยโอกาสผ่านทางสภากาชาดไทย  มาตั้งแต่ต้นปี เร็วๆ นี้จึงได้จัดพิธีส่งมอบเงินบริจาครวมกว่า 5,022,765.75 ล้านบาท  โดยมี คุณจันทร์ประภา วิชิตชลชัย  รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้  สภากาชาดไทย  เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมด้วยดาราศิลปินรุ่นใหม่ แชมป์-ชนาธิป โพธิ์ทองคำ  และ   แพร์ พิชชาภา พันธุมจินดา ร่วมระดมทุนในโค้งสุดท้าย เมื่อเร็วๆ นี้ (วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ณ ลานเอเทรียม 3 ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์) 

มร.ฮิโตชิ โยโกฮามา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อีซี่บาย ผู้ให้บริการ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส เผยว่า “จากสถิติของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ปี2561 โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1ของคนไทย โดยพบว่ามีคนไทยเสียชีวิตราว78,540 คนต่อปี เฉลี่ยชั่วโมงละ 8 ราย และมีผู้ป่วยรายใหม่ราว 122,757 คนต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมากถือเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย  ซึ่งทั้งนี้มีผู้ป่วยที่ยากจนและด้อยโอกาสอีกจำนวนมากที่ยังต้องการความช่วยเหลือในการรักษา อีกทั้งทีมแพทย์เองยังคงมุ่งมั่นในการค้นคว้าเพื่อรักษาโรคนี้ ทางบริษัทฯจึงเล็งเห็นความสำคัญและจัดทำกิจกรรมในปีนี้โดยมีวัตถุประสงค์คือการระดมเงินบริจาค เพื่อสมทบทุนสนับสนุนงานวิจัยและรักษาโรคมะเร็งแก่ผู้ด้อยโอกาสเพื่อการค้นคว้าวิจัยรักษาโรคมะเร็งผ่านสภากาชาดไทย  ผมต้องขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมนี้เป็นอย่างดีเสมอมา ทำให้วันนี้เราสามารถส่งมอบเงินจำนวนกว่า 5 ล้านบาทได้สำเร็จ และผมหวังว่ากิจกรรมนี้ จะเติบโตและได้รับความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องชาวไทยในการส่งมอบความห่วงใย และพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อๆไปครับ”    

ทางด้าน  คุณจันทร์ประภา วิชิตชลชัย  รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้  สภากาชาดไทย  กล่าวขอบคุณหน่วยงานเอกชนที่เห็นความสำคัญ เห็นใจ และเข้าใจถึงความยากลำบากในผู้ป่วยที่เข้าไม่ถึง ขาดโอกาสทางการรักษา แน่นอนว่าตัวเลขสถิติผู้ป่วยมะเร็งไม่ได้น้อยลง หากแต่ทวีเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ กิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะระดมทุนสนับสนุนงานวิจัยเพื่อรักษามะเร็ง เติมเต็มโอกาสให้แก่ผู้ป่วยยากไร้มากขึ้นแล้ว ยังเป็นการปลุกกระแสและรณรงค์ให้คนตระหนักถึงโรคร้ายมากขึ้นด้วย นอกเหนือจากนั้นคือการพิสูจน์ถึงน้ำจิตน้ำใจที่คนไทยไม่ทิ้งกัน ขอขอบพระคุณมากค่ะ”

สำหรับกิจกรรม ยูเมะพลัส  “ส่งต่อ…ความห่วงใย”    มุ่งเน้นจุดประสงค์ระดมทุนสนับสนุนงานวิจัยและรักษาโรคมะเร็งแก่ผู้ด้อยโอกาส ผ่านทางสภากาชาดไทย เพื่อการค้นคว้าวิจัยรักษาโรคมะเร็งซึ่งถือเป็นโรคร้ายอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตคนไทย ซึ่งเขาเหล่านั้นยังคงรอคอยความช่วยเหลือ ผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมสมทบทุนได้ง่ายๆ เพียงบริจาคเงิน 100 บาท รับกระเป๋า Umay+ Premium ที่ ยูเมะพลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนั้น  ปีนี้ยังมีความพิเศษ เปลี่ยนวิธีการบริจาคจากเงินสดสู่การบริจาคแบบไร้เงิน (QR code) เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยให้ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมสมทบทุนได้ง่ายๆ เพียงสแกน QR Code บริจาคเงิน 100 บาท รับกระเป๋า Umay+ Premium ได้ที่ ยูเมะพลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ ภายในงานยังได้สองนักแสดง แชมป์ ชนาธิป  โพธิ์ทองคำ และ แพร์ พิชชาภา พันธุมจินดา มาชวนแฟนๆ ร่วมสมทบทุน พร้อมแสดงมินิคอนเสิร์ต  เรียกว่า อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งใจ   

 

 

หมายเหตุ

กิจกรรม ยูเมะพลัส “ส่งต่อ…ความห่วงใย” จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญทุกคนรวมพลังสร้างสรรค์สังคม และช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ ผ่านทางสภากาชาดไทย 

 ปี 1 (2556) และ ปี 2 (2557) จัดขึ้นเพื่อระดมเงินสมทบทุนศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อมะเร็งเต้านม ผ่านทางสภากาชาดไทยเพื่อการค้นคว้าวิจัยฯ

ปีที่ 3 (2558) ปีที่ 4 (2559) และปีที่ 5 (2560) จัดขึ้นเพื่อระดมเงินสมทบทุนสมทบทุน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พิการ ทุพพลภาพในโครงการต่างๆสภากาชาดไทย 

ปีที่ 6 (2561) ร่วมระดมเงินสมทบทุนบริจาคเพื่อสนับสนุนงานคลินิกเคลื่อนที่ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ ผ่านทางสภากาชาดไทย

6 ปีที่ผ่านมา (2556-2561) อีซี่บาย และ ยูเมะพลัส  ได้ส่งมอบเงินบริจาคทั้งสิ้น จำนวน 55,500,515.75 บาท ให้แก่สภากาชาดไทย