เปิดวิสาหกิจชุมชนแห่งใหม่ภายใต้โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขาย “ชุมชนหลัง ว.ค. จันทรเกษม (สยามเวนิสจันทรเกษม)” เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มศักยภาพให้กับชุมชน

​นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานเปิดตัวโครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ “ชุมชนหลัง ว.ค. จันทรเกษม” เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับปรุงตกแต่งออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน ให้เป็น “สยามเวนิสจันทรเกษม” ตลาดแนว สตรีทฟู้ดแบบไทย และเปิดเป็นพื้นที่จำหน่ายอาหารและขนมไทยในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งยังเข้าไปช่วยพัฒนาปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ตะกร้าสานพลาสติก และสอนการมัดย้อมผ้าเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ชุมชน เป็นการสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางในการค้าขายและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

นายวัฒนศักย์เปิดเผยว่า จากความตั้งใจของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็งโดยมีนโยบายสร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับชุมชน กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ จึงเข้าไปช่วยพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางของชุมชนให้เป็นตลาด “สยามเวนิสจันทรเกษม” แนวสตรีทฟู๊ด โดยเชิญนายธีรวีร์ ดิษยะไชยพงษ์ หรือ เชฟจากัวร์ เชฟชื่อดัง มาช่วยแนะนำปรับปรุงเมนูและรสชาติของอาหารทั้งคาวหวานให้ได้มาตรฐานและหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค อีกทั้งได้เชิญ อ.ญาติกา สมบัติบุตรี ดีไซน์เนอร์ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์มาช่วยพัฒนาปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ร่วมสมัยตรงกับความต้องการของตลาด เป็นการเพิ่มขีดความสามารถและช่องทางการตลาดให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

“กลุ่มชุมชนหลัง ว.ค.จันทรเกษม เป็นชุมชนเข้มแข็งเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มคุณประภัสสร ชูทอง และกลุ่มคนพื้นที่เดิม มีอาชีพด้านหัตถกรรมสานตะกร้าพลาสติกออกขาย ทำอาหารและขนมออกจำหน่าย โดยมีการออกกฎระเบียบว่ากลุ่มผู้ค้าขายจะต้องเป็นคนในชุมชนหรือผู้ที่เป็นสมาชิกกลุ่มเท่านั้น ทางกรมการค้าภายในจึงได้เข้าไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน เพื่อเสริมศักยภาพให้ชุมชน” นายวัฒนศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ทางกลุ่มยังมีเป้าหมายเปิดพื้นที่เป็นตลาดนัดอาหารในช่วงเวลากลางคืน และมีโครงการต่อยอดไปสู่การพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนทางน้ำโดยจะมีการให้บริการเรือพายให้สมกับชื่อ “สยาม เวนิสจันทรเกษม” ปัจจุบันมีการสำรวจพื้นที่บริเวณริมคลองลาดพร้าวและทำแนวกั้นเขื่อนเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนในการพัฒนาทางกรมการค้าภายในพร้อมให้การสนับสนุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับชุมชน