ถอดรหัสความสำเร็จ ‘ตรีวิทย์ พิชณุษากร’ ทายาทรุ่น 3 นำพา Neil’s Tavern Restaurant & Bake Shoppe สู่ตำนานสเต็กเหนือกาลเวลา

“Neil’s Tavern คือสเต๊กเฮาส์สไตล์คลาสสิกที่ถือกำเนิดจากธุรกิจครอบครัวซึ่งเริ่มต้นเสิร์ฟอาหารตะวันตกในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 1969 จุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายย่านสยามสแควร์ ได้ถูกสานต่อจนกลายเป็นร้านสเต๊กรุ่นบุกเบิกที่ยังคงรักษามาตรฐาน ความพิถีพิถัน และเสน่ห์แบบดั้งเดิมมาจนถึงทุกวันนี้ที่ซอยร่วมฤดี

ด้วยวัตถุดิบนำเข้าคุณภาพสูงและสูตรเฉพาะที่สืบทอดกันมายาวนาน Neil’s Tavern โดดเด่นด้วยสเต๊กย่างเตาถ่านเนื้อฉ่ำ ล็อบสเตอร์อบชีสหอมละมุน ซุปและเมนูโฮมเมดที่ปรุงอย่างประณีต รวมถึงของหวานจาก Bake Shoppe ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน

ทั้งประวัติอันยาวนาน บรรยากาศอบอุ่นสไตล์ยุโรป และเมนูระดับคลาสสิก ล้วนทำให้ Neil’s Tavern ยังคงเป็นหนึ่งในร้านสเต๊กอันเป็นตำนานของกรุงเทพที่หลายคนประทับใจไม่รู้ลืม”

ท่ามกลางกระแสร้านอาหารที่มาเร็วไปเร็วราวกับสายน้ำ มีร้านสเต็กแห่งหนึ่งที่ยืนหยัดอย่างสง่างามมานานกว่าครึ่งศตวรรษ นั่นคือ Neil’s Tavern Restaurant & Bake Shoppe ร้านในตำนานที่ผสานความคลาสสิกของสเต็กเฮาส์สไตล์อเมริกัน เข้ากับความผูกพันของคนไทยมาหลายช่วงอายุ Neil’s Tavern จึงไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่คือมรดกความอร่อยที่ยืนหยัดคู่คนไทยมานานกว่า 5 ทศวรรษ วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณตรีวิทย์ พิชณุษากร ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้อยู่เบื้องหลังการรักษาสมดุลระหว่าง “คุณค่าดั้งเดิม” และ “วิสัยทัศน์สมัยใหม่” ที่จะนำร้านสเต็กแห่งนี้ทะยานสู่เป้าหมาย: การเป็นตำนานระดับโลก

‘คุณตรีวิทย์ พิชณุษากร’ ทายาทรุ่น 3 นำพา Neil’s Tavern Restaurant & Bake Shoppe

จากวิศวกรสู่ผู้สานต่อตำนานร้านสเต๊กชื่อดัง

ย้อนกลับไปในปี 2554 คุณตรีวิทย์ ซึ่งจบการศึกษาและทำงานในสายวิศวกรรม ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ เพื่อกลับมารับไม้ต่อกิจการของครอบครัวในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 โดยไม่ลังเล “ผมผูกพันกับที่นี่มาตั้งแต่เด็กครับ คลุกคลีอยู่ในร้านมาตลอด ตั้งแต่มาทานอาหาร มาวิ่งเล่น จนวัยรุ่นก็ได้มาฝึกงานช่วยเสิร์ฟน้ำลูกค้า” การตัดสินใจครั้งนี้ จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย “เหมือนกับว่าเรารู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายก็ต้องกลับมาทำ เพราะเป็นความตั้งใจของคุณพ่อที่อยากให้สานต่อกิจการอันเป็นที่รักของครอบครัว”

เมนูเรียกน้ำย่อย เริ่มจากจานแรก Appetizer

U.S. Scallop rockefeller หอยเซลล์อเมริกันโรแคฟเฟลเลอร์ ราคา 660 บาท

Phuket Lobster Thermidor
กุ้งมังกรอบภูเก็ตเทอร์มิดอร์ “อบซอสครีม” ราคาตามน้ำหนัก

Steak A La Neil
สเต็กสไตล์นีล เสิร์ฟกับซอสไวน์แดง
1,650 บาท

France Snow Fish Truffle
ปลาหิมะฝรั่งเศสเสิร์ฟกับเห็ดทรัฟเฟิล
1,650 บาท 

ที่นี่เชี่ยวชาญด้านสเต็กและซีฟู้ด: ใช้เนื้อคุณภาพสูง (นำเข้าจากออสเตรเลีย /สหรัฐ /ญี่ปุ่น) และย่างด้วยเตาถ่าน ทำให้รสชาติ “จิ้ม เนื้อฉ่ำ”จริง ๆ

 

U.S.Rib Eye Prime Corn-Fed
สเต็กเนื้อริบอาย 300 กรัม 2,590 บาท

Australia Short Ribs
ออสเตรเลีย ช็อตริบ 1,590 บาท

ร้านเปิดมาตั้งแต่ปี 1969 และย้ายมาที่ซอยร่วมฤดี

การตกแต่งเป็นสไตล์อเมริกันแบบคลาสสิก มีอิฐแดง ไม้เข้ม และแสงไฟอุ่น ๆ ทำให้บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่น เหมาะกับการมื้อเย็นแบบโรแมนติกหรือมื้อหรูแบบครอบครัว

หลักการบริหาร: ‘ปรับโดยไม่เปลี่ยน’ เพื่อรักษาเอกลักษณ์

เมื่อเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการดูภาพรวมของ Neil’s Tavern พร้อมกับความคิดที่อยากปรับเปลี่ยนตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แต่เสียงสะท้อนจากลูกค้าประจำทำให้เขาเลือกแนวทาง “ปรับโดยไม่เปลี่ยน” เพื่อรักษาเอกลักษณ์อันแข็งแกร่งของร้านไว้ “ลูกค้าหลายคนบอกว่าอย่าเปลี่ยนเยอะ ทำให้เราตระหนักว่าสิ่งที่คุณปู่และคุณพ่อสร้างไว้มันแข็งแกร่งอยู่แล้ว เราจึงเลือกที่จะ ‘เก็บสิ่งที่ดีอยู่แล้วไว้’ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหารคลาสสิกที่ลูกค้าชื่นชอบ และบรรยากาศร้านที่มีเอกลักษณ์ อันไหนที่ดีอยู่แล้วเราจะไม่แตะต้อง แต่เราจะมุ่งเน้นแก้ไขในจุดที่มีปัญหา และพัฒนาต่อยอดในสิ่งที่ทำให้ร้านดีขึ้นกว่าเดิมครับ”

ที่นี่ก็มี Neil’s Bake Shoppe ซึ่งเป็นเบเกอรี่ของร้าน โดยเน้นเค้กและขนมอบต่าง ๆ เช่นพาย เค้กเปรี้ยว เค้กเนย

 

จิตวิญญาณของร้าน: คุณภาพวัตถุดิบที่ไม่ประนีประนอม

“สิ่งที่ประนีประนอมไม่ได้สำหรับ Neil’s Tavern คือเรื่องคุณภาพวัตถุดิบ ซึ่งคุณตรีวิทย์ยืนยันว่าทางร้านเลือกจาก คุณภาพมากกว่าราคา “เราไม่นำเรื่องราคามาเป็นตัวเลือกหลักในการตัดสินใจเลือกวัตถุดิบ แต่เน้นที่คุณภาพและสเป็กที่เราต้องการเท่านั้น เราอยากให้ซัพพลายเออร์ภูมิใจในสิ่งที่ส่งมา เราเชื่อว่าความตั้งใจนั้นจะสะท้อนออกมาในจานอาหารทุกจานที่เสิร์ฟให้ลูกค้า”

“ยกตัวอย่างเช่น เนื้อสันใน (Tenderloin) ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน นีลส์เทเวิร์นยังคงใช้เนื้อเกรดพรีเมียมจากซัพพลายเออร์เจ้าเดิมคือ “ซูพีเรีย” (Superior Quality Food) “เขาจะรู้ถึงมาตรฐานของทางร้าน และคัดสรรเนื้อตามสเป็กที่เราต้องการ ซึ่งเป็นความไว้วางใจที่สั่งสมมานาน” นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพอื่นๆ จากหลายประเทศ ทั้งอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รวมถึงเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นไทยที่มีคุณภาพสูง เช่น กุ้งภูเก็ต เป็นต้น”

 

หลายคนบอกว่าที่นี่คือหนึ่งใน (landmark) “ด้านสเต๊ก & ซีฟู้ดของกรุงเทพ”

ความคุ้มค่าที่ยั่งยืน: ประสบการณ์ที่ดีคือคำตอบ

ด้วยการรักษามาตรฐานคุณภาพที่เข้มงวด ทำให้ Neil’s Tavern ไม่จำเป็นต้องพึ่งกลยุทธ์ด้านราคาเหมือนร้านอื่นๆ “เราไม่เน้นการทำกลยุทธ์ด้านโปรโมชั่น เราตั้งราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพแล้ว ลูกค้าหลายท่านก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เขาได้รับ เพราะสิ่งที่เรามอบให้ไม่ใช่แค่อาหาร แต่คือ ‘ประสบการณ์ที่ดี’ ทั้งในเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบ รสชาติอาหาร การบริการที่เอาใจใส่ เป็นความคุ้มค่าที่ลูกค้าได้รับกลับไปครับ” ความคุ้มค่าที่แท้จริงนี้ ดึงดูดลูกค้าทุกเจเนอเรชัน ตั้งแต่รุ่นคุณปู่จนถึงรุ่นหลาน โดยมีลูกค้าไทยราว 70% และต่างชาติ 30%

เค้กช็อกโกแลตเวียนนา
เค้กชิฟฟอนช็อกโกแลตเนื้อบางเบา สอดไส้ครีมมอคค่าเนียนนุ่ม
ราดด้วยวิปครีมสดและราดด้วยช็อกโกแลตเข้มข้น
ความหวานเหนือกาลเวลา ครองใจคนรักมาตั้งแต่ปี 1969

Sweet tart

เป็นขนมแนว “คุกกี้ + ทาร์ต” — ไม่ใช่ทาร์ตลึกหรือพาย แต่เป็นชิ้นเล็ก “คุกกี้ทาร์ต” มีไส้แยมราสเบอรี่ตรงกลาง ซึ่งให้ความเปรี้ยวเล็กน้อย ตัดกับความหวานของคุกกี้ ออกแบบมาให้กินง่าย (พอดีคำ) และไม่เลี่ยนเกิน — เหมาะสำหรับของว่างเบา ๆคะ

บอกว่าที่นี่มีเมนู “Coffee และ Non-coffee” ให้เลือกได้หลายแบบ 
ร้าน Bake Shoppe เป็นจุดพักจิบกาแฟ /เครื่องดื่มเบา ๆ คู่กับเค้กหรือคุกกี้ — เหมาะกับการมานั่งชิลช่วงสายหรือบ่าย

เมนูเค้กมากมาย: เค้กแบบพอนด์ (Pound Cake) เป็นหนึ่งในเมนูเด่นของร้าน
มีเค้กแบบต่าง ๆ เช่น Apple Crumble, Black & White Cake, Black Forest, Carrot Cream Cheese, Chocolate Mousse ฯลฯ 
เมนูพายและขนมอบอื่น ๆ (Pie / Bread / Pastry) ก็มีให้เลือกเยอะ 
คุกกี้ Homemade: เบเกอรี่โฮมเมดแบบคุกกี้หลายแบบให้เลือก 

ร้านเป็นบ้านหลังเล็ก ตกแต่งอบอุ่น นั่งสบาย เหมาะกับการจิบกาแฟหรือชาในช่วงพักผ่อน 
มีที่นั่งไม่เยอะมาก (รีวิวบอกประมาณ 4–5 โต๊ะ) 
ดังนั้นถ้ามาช่วงบ่ายคนอาจเยอะและอาศัยจิบเครื่องดื่มนั่งนานอาจทำให้หาที่ยาก

กลยุทธ์ต่อยอด: สร้าง ‘แบรนดิ้ง’ ให้แข็งแกร่งกว่า ‘โปรโมชั่น’

ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง คุณตรีวิทย์เลือกใช้กลยุทธ์การนำจุดแข็งของแบรนด์ Neil’s Tavern ที่แข็งแรงอยู่แล้วมาต่อยอดให้เข้มแข็งมากขึ้น “ตอนนี้เราเน้นการ ‘สร้างแบรนดิ้งให้แข็งแรงขึ้น’ ครับ เพราะข้อได้เปรียบของเราคือการเป็น ‘เลคกาซี่’ (Legacy) ที่อยู่มานานกว่า 56 ปี เราเชื่อว่าการตอกย้ำคุณค่าและเรื่องราวที่สืบทอดมานี้ จะดึงดูดลูกค้าใหม่ได้มากกว่าการใช้โปรโมชั่นลดราคา”

และอีกหนึ่งความสำเร็จคือ Neil’s Bake Shoppe ที่ถือกำเนิดจากเมนูของหวานในร้านอย่าง “เวนิส ช็อกโกแลต เค้ก” (ก่อตั้งปี 2526) ซึ่งกลายเป็นแบรนด์เบเกอรี่ชื่อดังที่ช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้รู้จัก Neil’s Tavern มากขึ้น

บทสรุปสู่ตำนานที่มีชีวิตและก้าวต่อไปของ Neil’s Tavern

ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่นที่ 3 Neil’s Tavern กำลังเดินหน้าสู่อนาคตด้วยการสร้าง “แบรนด์ที่ยั่งยืน” ตอกย้ำความเป็นเลคกาซี่ให้ชัดเจน เพื่อให้ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่เห็นคุณค่าที่คุณปู่และคุณพ่อได้สร้างไว้ “ผมอยากให้ Neil’s Tavern เป็นร้านสเต๊กที่มีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี เหมือนร้านสเต๊กในต่างประเทศที่เราเคยเห็น นี่คือแรงผลักดันที่ทำให้เราพยายามรักษาและพัฒนาอยู่เสมอครับ”

ความมุ่งมั่นของคุณตรีวิทย์ในการสานต่อตำนานร้านสเต็ก ที่ไม่ได้เน้นเพียงแค่ความอร่อย แต่ยังคงรักษาจิตวิญญาณของ ‘คุณภาพ การบริการ และความผูกพัน’ จะนำพา Neil’s Tavern เดินหน้าสู่เป้าหมาย ‘ร้านสเต็กอายุร้อยปี’ ที่มั่นคงและยั่งยืน เป็น “ตำนานที่มีชีวิต” เหนือกาลเวลาอย่างแท้จริง

โดยรวม Neil’s Tavern เป็นร้านสเต๊กและซีฟู้ดยุคคลาสสิกของกรุงเทพ ดูแลใส่ใจละเอียดเรื่องวัตถุดิบ บรรยากาศอบอุ่น และบริการดี ถ้าคุณมองหาร้านฝรั่งแบบหรูแต่คงคลาสสิกร้านนึง ที่ให้ประสบการณ์ “มื้อพิเศษ” เนื้อดี ซีฟู้ดดี ขนมหวานดี — ที่นี่เป็นตัวเลือกที่เราอยากแนะนำมาก

The Best Steak and Seafood
For Dine-in and Delivery:
11:30 – 13:45 (Last Order 13:45)
17:30 – 22:30 (Last Order 22:30)
If order via Grab Food and Line Man: Last Order 13:30 and 22:30
📞 For Ordering: 022566875 or
Line ID: @neil_dining
Grab Food “We Are Now Available on Grab Food”