[fusion_builder_container hundred_percent=”no” equal_height_columns=”no” menu_anchor=”” hide_on_mobile=”small-visibility,medium-visibility,large-visibility” class=”” id=”” background_color=”” background_image=”” background_position=”center center” background_repeat=”no-repeat” fade=”no” background_parallax=”none” parallax_speed=”0.3″ video_mp4=”” video_webm=”” video_ogv=”” video_url=”” video_aspect_ratio=”16:9″ video_loop=”yes” video_mute=”yes” overlay_color=”” video_preview_image=”” border_size=”” border_color=”” border_style=”solid” padding_top=”” padding_bottom=”” padding_left=”” padding_right=””][fusion_builder_row][fusion_builder_column type=”1_1″ layout=”1_1″ background_position=”left top” background_color=”” border_size=”” border_color=”” border_style=”solid” border_position=”all” spacing=”yes” background_image=”” background_repeat=”no-repeat” padding_top=”” padding_right=”” padding_bottom=”” padding_left=”” margin_top=”0px” margin_bottom=”0px” class=”” id=”” animation_type=”” animation_speed=”0.3″ animation_direction=”left” hide_on_mobile=”small-visibility,medium-visibility,large-visibility” center_content=”no” last=”no” min_height=”” hover_type=”none” link=””][fusion_text]

Part 3 เยือนตะวันตกเลคทานา แวะแอ่วเหนือลาลิเบลา

ต้นกำเนิดแห่งแม่น้ำไนล์ ได้ฟังชื่อนี้ทุกคนคงนึกถึงอียิปต์ แต่จริงๆแล้วแม่น้ำไนล์ มีต้นกำเนิดอยู่ในเอธิโอเปีย แม่น้ำไนล์น้ำเงิน (Blue Nile River) เพราะสีของแม่น้ำมองดูเป็นสีน้ำเงินชัดเจนในช่วงฤดูแล้ง ชนพื้นเมืองเรียกกันว่า อาบาย (Abai) และเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

ทะเลสาบทานา (Lake Tana) อยู่บนที่ราบสูงทางตะวันตกเฉียงเหนือของเอธิโอเปีย คือถิ่นกำเนิดของแม่น้ำไนล์เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่งดงามที่สุดของแอฟริกาตะวันออก ชาวกรีกโบราณเรียกทะเลสาบนี้ว่า Pseboa และใหญ่ที่สุดของเอธิโอเปีย ภายในทะเลสาบทานามีเกาะเล็กๆ กระจายอยู่ทั้งหมด 37 เกาะ ซึ่งในจำนวนนี้ มีอยู่ประมาณ 20 กว่าเกาะที่มีโบสถ์และสำนักนักบวชคริสต์ออร์โธดอกซ์ตั้งอยู่ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์และศาสนาของเอธิโอเปีย มีการเก็บคัมภีร์และเอกสารโบราณ ตลอดจนงานศิลปะและวัตถุล้ำค่าทางศาสนาไว้มากมาย ดังนั้น จึงถือกันว่าทะเลสาบทานาเป็นหนึ่งใน “เส้นทางประวัติศาสตร์ (the Historic Route)”

แอ่วเหนือลาลิเบล่า Holy Land ดินแดนแห่งการจาริกแสวงบุญที่ชาวคริสต์อยากจะมาซักครั้ง

เหมือนคนพุทธที่อยากไปสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าซักครั้ง

ลาลิเบล่าคือโบสถ์ที่เกิดจากการสลักหินภูเขาไฟสีแดงอมชมพู เพียงก้อนเดียว ที่ขุดลึกลงไปใต้ดิน นักโบราณคดีมีความเชื่อว่า กษัตริย์ทรงพระนามว่า ลาลิเบลา ถูกพาตัวไปเยรูซาเล็ม และเห็นความอลังการจึงกล่าวว่า จะสร้างเยรูซาเล็มใหม่ขึ้นมา ตัวโบสถ์ สูงประมาณตึก 3 ชั้น หลังคาของโบสถ์ สูงเสมอพื้นดิน ถ้าเราคิดถึงตอนนี้ก็มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างไร แต่ถ้าลองคิดย้อนไป 800 ปีก่อน ซึ่งยังไม่มีกรุงสยาม ก็น่าแปลกใจว่าเค้าใช้อะใรขุดเจาะ และที่น่าแปลกใจคือ บ้านเมืองของชาวบ้านทำด้วยดินและฟาง สุดแสนลำบากและยากจน แต่คนสมัยนั้นขุดลงไปใต้ดินสกัดหินขึ้นมาเป็นโบสถ์ ได้อย่างไร และไม่ใช่เพียงหลังเดียว รอบๆบริเวณนั้น มีถึง 11 หลังที่เดินเชื่อมถึงกันได้หมด ระยะเวลา 24 ปีในการก่อสร้าง ต้องศัทธาแค่ไหนและใช้คนเท่าไหร่ ก็คงเหมือนสิ่งมหัศจรรย์ของหลายๆ ประเทศที่หาคำอธิบายไม่ได้ชัดเจนนัก และในปี ค.ศ 1978 ทางยูเนสโก ก็ขึ้นทะเบียนเป็นเป็นมรดกโลก

Photo / Story  : Kwanzaa

[/fusion_text][/fusion_builder_column][/fusion_builder_row][/fusion_builder_container]