[fusion_builder_container hundred_percent=”no” equal_height_columns=”no” menu_anchor=”” hide_on_mobile=”small-visibility,medium-visibility,large-visibility” class=”” id=”” background_color=”” background_image=”” background_position=”center center” background_repeat=”no-repeat” fade=”no” background_parallax=”none” parallax_speed=”0.3″ video_mp4=”” video_webm=”” video_ogv=”” video_url=”” video_aspect_ratio=”16:9″ video_loop=”yes” video_mute=”yes” overlay_color=”” video_preview_image=”” border_size=”” border_color=”” border_style=”solid” padding_top=”” padding_bottom=”” padding_left=”” padding_right=””][fusion_builder_row][fusion_builder_column type=”1_1″ layout=”1_1″ background_position=”left top” background_color=”” border_size=”” border_color=”” border_style=”solid” border_position=”all” spacing=”yes” background_image=”” background_repeat=”no-repeat” padding_top=”” padding_right=”” padding_bottom=”” padding_left=”” margin_top=”0px” margin_bottom=”0px” class=”” id=”” animation_type=”” animation_speed=”0.3″ animation_direction=”left” hide_on_mobile=”small-visibility,medium-visibility,large-visibility” center_content=”no” last=”no” min_height=”” hover_type=”none” link=””][fusion_text]

Past 2. ล่องใต้ไปดูธุรกิจการค้า เรือนร่างผ่านเลนส์


เราเดินทางกว่า 700 กิโลเมตร จาก เมืองหลวง Addis Ababa ไปสนามบินเมืองจินกา (Jinka) เมืองเล็กๆทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย เพื่อย้อนกลับไปยังโลกของ ”ชนเผ่า”

ชนเผ่า ธุรกิจค้าเรือนร่างเปลือยเปล่า สายตาหมองเศร้า ผ่านเลนส์กล้องของนักท่องเที่ยว เราสามารถชี้เอาได้เลยว่าต้องการจะถ่ายรูปหน้าและนมของผู้หญิงคนไหน พวกเธอจะเดินตามมาเป็นนางแบบ ยื่นนิ่งๆ เหมือนหุ่นไล่กา กับสายตาที่เย็นชาของพวกเธอ เราได้รูปสวยงามผ่านเลนส์กล้องโปร แต่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ ก็คงไม่ต่างจากเกอิชาของญี่ปุ่นที่ขายการบริการ ขายความเป็นเพื่อน เสแสร้งสนุกสนานได้ตลอดเวลา ชงชา ดื่มสาเกเป็นเพื่อน แปลกไหม? จะแปลกอะไร ทุกวันนี้คนเราต่างก็เป็นเกอิชาด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนมีหน้าที่แสดงละครชีวิต แสดงเป็นคนดี แสดงเป็นนักบุญ แสดงเป็นคนบาป สวมหัวโขนกันโคลมๆ ถ้าไม่ชอบการแสดงก็เป็นเกอิชาที่ดีและประสบความสำเร็จไม่ได้ (#ฉากญี่ปุ่น)

ชนเผ่าคืออะไร น่ากลัว และอันตรายหรือไม่

เป็นคนพื้นเมืองไม่มีบัตรประชาชน พวกเขาก็เหมือนเรา มีรัก มีโกรธ มีคนดี มีคนร้าย แต่ก็มีเอกลักษณ์ และแสดงออกผ่านเรือนร่างหน้าตาที่แตกต่างกันเช่น เจาะหน้า เจาะปาก บางจำพวกเขียนหน้าด้วยสี เดาเอาว่าสมัยก่อนมีการค้าทาสมากมาย พวกเขาจึงพยายามทำตัวให้หน้าเกลียดน่ากลัวจะได้ไม่ต้องถูกจับไปเป็นทาส เขาไม่รู้จักโรงเรียน อยู่ในซุ้มที่ทำด้วยกิ่งไม้ใบหญ้า แคบๆ เตี้ยๆ เวลาเข้าไปแทบจะต้องคลาน ไร้หน้าต่าง และประตู อยู่ร่วมกับแพะ แกะ และหมา เดินอึ เดินฉี่ อยู่รอบๆ บริเวณที่พวกเขาอยู่ เสมือนเป็นคอกสัตว์ดีๆ นี่เอง เด็กๆ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูแต่มอมแมม และเหม็น ไม่ใส่เสื้อผ้า ขี้มูกขี้ตาเขลอะ ผู้หญิงบางเผ่าไม่ใส่เสื้อ เดินนมย้อยห้อยโทงเทง สวนนมสาวรุ่นก็สวยแบบแตกเนื้อสาวของสาวผิวเข้ม แต่…การเปิดเดินโทงๆ ไม่ทำให้น่ามอง ในฐานะผู้หญิงด้วยกันก็เวทนา และเศร้าใจ บางคนเอาหนังสัตว์มาหุ้ม เอาเขี้ยวสัตว์มาใส่ ผู้ชายเป็นผู้นำ ผิวดำสนิทถือมีดดาบบ้าง ปืนบ้าง การมีปืนที่นี่ถือเป็นเรื่องปกติ ดูเถื่อนและน่ากลัว ผอมแห้งอาจจะหมายถึงการขาดสารอาหารบางชนิด ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงผีตองเหลือง หรือซาไก อะไรประมาณนั้น
ประเทศนี้มีชนเผ่ามากถึง 84 ชนเผ่า 84 ภาษา แต่ที่มีโอกาสได้ไปชมมีดังนี้

เผ่า Mursi เป็นเผ่าที่ผู้หญิงจะมีเครื่องประดับทั้ง หู ปากและบนศีรษะ เป็นเผ่าที่กร้าวร้าวและดุดัน ก่อนที่เราจะเข้าไปก็มีข่าวว่ายิงนักท่องเที่ยวและหัวหน้าทัวร์ท้องถิ่นตาย

เผ่า Arbore ชนเผ่าที่มีบ้านทรงกลมพร้อมมีห้องนั่งเล่นในบ้านแยกเป็น 2 ฝั่ง คือซ้ายมือเป็นของผู้ชาย ขวามือของผู้หญิงและเด็ก มีประชากรเหลือไม่มากพันกว่าคน ชนเผ่านี้หน้าตาสวยเกือบทุกคน และอยู่ไม่ไกลจากเมือง Konso

เผ่า Konso ได้รับมรดกโลกทางภูมิทัศน์วัฒนธรรม ปี 2554 เอธิโอเปีย Konso ชนเผ่าที่ตั้งรกรากบนเทือกเขาที่แห้งแล้งและปรับตัวให้เข้ากับภูมิประเทศ มีการพัฒนา มีขนมธรรมเนียมที่ยาวนานกว่า 400 ปี มีความรัก ความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถือเป็นการพัฒนาขั้นสูงสุด ของชาวเผ่าต่างๆที่เราไปเยี่ยมชม มีรั้วรอบขอบชิดเป็นหินแน่นหนา อยู่รวมกันทั้งตระกูลจนเป็นหมู่บ้านใหญ่ ทุกคนได้รับการพัฒนาเกือบทุกด้านจนจะกลายเป็นคนเมืองไปแล้ว

เผ่า Hamer ประเพณีสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องแวะไปชมคือ Bull Jumping /งานเฉลิมฉลองความเป็นชาย งานนี้จะแจ้งให้ญาติทราบว่าบรรลุนิติภาวะและพร้อมมีครอบครัวแล้ว เป็นงานที่ผู้ชายทุกคนต้องทำ คือการเปลือยกายกระโดดข้ามวัวครั้งละ 10 ตัว ไปกลับ 2 ครั้ง ครั้งนี้เราโชคดีที่ได้เจอคนกระโดดเป็นคนที่ออกจากเผ่าไปเรียนหนังสือในเมือง และมีอาชีพเป็นไกด์ จึงได้ความรู้ และเปลี่ยนความคิดจากเวทนาเป็นความเข้าอกเข้าใจในประเพณีของพวกเขา น้องกลับมาบ้านเพื่อทำพิธีนี้ทดแทนบุญคุณให้ พ่อ แม่ จะได้หมดห่วง แสดงว่าพิธีนี้ ต้องสำคัญมากสำหรับเผ่า/ถ้าบ้านเราก็เรียกว่าบวชก่อนเบียดให้พ่อ แม่นั่นเอง

เผ่า Karo ชนเผ่าที่นำสีขาวจากธรรมชาติ มาทา และเขียนลวดลายบนใบหน้าและเรือนร่าง ซึ่งเหลือประชากรเผ่านี้ไม่มากนัก
จะอย่างไรก็ดี รูป คือ ภาพผ่านเลนส์กล้องทำให้งดงาม หรือเลวร้ายแค่ไหนก็ได้ แต่ไม่สามารถถ่ายถอดความรู้สึก ทั้งหมดได้ ครั้งนี้ขอเลือกเก็บสิ่งที่ดีๆ บางช่วงบางตอนมาฝากทุกคน จงมองข้ามความเศร้าใจและสงสารเพราะเราเปลี่ยนมันไม่ได้

Photo : ศุภชัย ตันพันธุ์

Story  : Kwanzaa

[/fusion_text][/fusion_builder_column][/fusion_builder_row][/fusion_builder_container]