Hiraizumi จังหวัด อิวาเตะ (iwate)

การเดินทางสู่มรดกโลก จากซาคุนามิ เมืองเซ็นได เพื่อไปฮิราสุมิ ยิ่งไป…ยิ่งไกล….ยิ่งรักใคร่……ยิ่งงดงาม

ถ้าถามว่าเดินทางมาเกือบร้อยประเทศชอบที่ไหนมากที่สุด ก็ยังยืนยันเช่นเดิมว่าญี่ปุ่น ผู้คนเป็นระเบียบ บ้านเมืองสะอาด การเดินทางสะดวก อาหารอร่อยและหาทานได้ง่ายเหมือนบ้านเรา ข้อสำคัญคนญี่ปุ่นกินข้าวไม่เหยียดเราเหมือนพวกกินขนมปัง เหมาะสำหรับคนที่ชอบไปจมอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ

ฮิรามิสุ เมืองเล็กๆที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรทางเหนือ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเทียบเท่ากับเกียวโตะ วัด สวน และแหล่งโบราณคดีของฮิราสุมิ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 2011

วัดชูซนจิ (Chusonji Temple ) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮิราสุมิเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนา นิกายเทนไดในภูมิภาคโทโฮคุ สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 850 โดยพระสงฆ์เอ็นนิน ในแรกเริ่มมีอาคารและเจดีย์มากกว่า 40 หลังแต่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เหลือเพียงฮอนโดะวิหารเก่าแก่ที่ยังเหลืออยู่เพียงหลังเดียวของวัด หอเก็บสมบัติซันโกโสะ เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บสมบัติของผู้ปกครองเมืองฮิราอิสุมิเป็นสมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ3000 ชิ้น วิหารทองคำคอนจิคิโดะ Konjikido ถูกเก็บรักษาไว้ในอาคารเพื่อป้องกันการถ่ายภาพ เราอดใจไม่ได้ยังซื้อหนังสือของวัดมาหนึ่งเล่ม อ่านก็ไม่ออกหวังแค่ว่า วันหนึ่งจะกลับมาพร้อมกับความเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เราเดินตามทางสัมผัสธรรมชาติสองข้างทาง ได้เจอครอบครัวคนไทย 4 คน ก็เลยเดินคุยกันไปและเป็นตากล้องให้ครอบครัวเขาไป ทักทายคนญี่ปุ่นบ้างคนไต้หวันบ้าง ทำให้จิตใจพองโตกับมิตรภาพและบรรยากาศที่เขียวครึ้มร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่อายุกว่าพันปี

วัดโมสึจิ (Motsuji Temple) เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ของนิกายเทนได อาคารต่างๆจำนวนมาก ถูกสร้างในช่วงเวลาเดียวกันกับวัดชูซนจิ วิหารหลังใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปแห่งการแพทย์ Yakushi Nyorai จุดที่น่าสนใจที่สุดของการมาวัดแห่งนี้คือเป็นสวนโบราณสมัยยุคเฮอัน ซึ่งสร้างตามแนวคิดทางพระพุทธศาสนา ภายในสวนจะมีสระน้ำขนาดใหญ่เป็นศูนย์กลาง หิน กรวด และสวนดอกไม้ ชื่อว่า The Pure Land Garden :A Living Remnant of a Heian Garden ดินแดนบริสุทธิ์ ที่พระพุทธเจ้าอาศัยอยู่หลังจากปรินิพพาน

ที่นี่เราหารูปสวยๆ ไม่ค่อยได้ มิใช่ไร้ฝีมือนะ แต่ฝนตก เรามิได้กลัวฝนแต่กล้องเราขี้หนาวและเรายังไม่พร้อมซื้อกล้องใหม่ ที่สำคัญหลายๆ จุด งดถ่ายภาพ

Kitakami / Iwate ชมซากุระคุณยายอายุ 90 ปี แก่กว่าเราหลายปีเราเลยเรียกคุณยาย เวลาเจอกันด้วยความเป็นคนไทย เราเลยยกมือไหว้และกล่าวสวัสดี ที่แย่คือมีคนเห็นและทำท่าสงสัยเราไหว้ใคร? เอาน่าถึงจะดูบ้าๆ บอๆ แต่เรามีความสุขก็จบ “เชื่อเราซิไหว้ตนไม้ ดีกว่ายกมือไหว้คนบางคน” ที่นี่เป็นสถานที่แนะนำแห่งหนึ่งใน 100 สถานที่ชมซากุระบาน สวนสาธารณะ Kitakami Tenshochi ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำKitakami จังหวัดIwate ซึ่งมีต้นซากุระกว่า10,000 ต้น ถ้าให้เลือกมาชมซากุระที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ที่สะดวกและสวยงามไม่แพ้ที่ใดในญี่ปุ่น เราจะเลือกที่นี่ เพราะ เดินทางสะดวก พอลงจากสถานี Kitakami ก็เดินเพียง 10 นาทีเท่านั้น จะเดินทอดน่องชมซากุระ,จะนั่งรถม้าหรือจะนั่งเรือชมก็มีให้เลือกทั้งสามอย่างตามแต่เวลาจะอำนวย ส่วนเรานั่งรอโบกมือให้คนที่นั่งบนรถม้า จำได้ว่าเรานั่ง เดิน โบกมืออยู่ที่นั่น ประมาณ 5 ชั่วโมง ถ้าไม่นัดทานอาหารเย็นที่เรียวกัง เราคงนั่งจนมืด ที่นี่ยังมี Michinoku Folklore Village พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงบ้านเรือนและอาคารต่างๆ ในช่วงประวัติศาสตร์ของภูมิภาค Tohoku และยังมีร้านอาหารมากมายจัดเป็นซุ้มอยู่สุดถนนสายซากุระก่อนถึงพิพิธภัณฑ์ ทั้งปิ้งย่าง โชบะ และอื่นๆอีกมากมายนะ

Photo / Story  : Kwanzaa